พระบิดาแห่งเทคโนโลยีของไทย
                เหตุการณ์อันเป็นประวัติศาสตร์ ซึ่งแสดงชัดถึงพระอัจฉริยภาพของพระบาทสม
เด็จพระเจ้าอยู่หัวในด้านเทคโนโลยีได้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ ๑๙ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๑๕
 ทรงบัญชาการการทดลองทำฝนหลวง สาธิตให้คณะผู้แทนรัฐบาลสิงคโปร์ ๓ นาย
พร้อมด้วยข้าราชบริพารจำนวนหนึ่งชมที่บริเวณอ่างเก็บน้ำแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี
การที่ทรงเลือกจุดนี้เป็นเป้าหมายปฏิบัติการทั้ง ๆ ที่เป็นเป้าหมายเล็กมากยากที่จะทำให้
ฝนตกลงตรงเป้าหมายได้เพราะมีพื้นที่จำกัด ก็ด้วยเหตุผลว่าบริเวณนี้มีสภาพภูมิประ
เทศและภูมิอากาศใกล้เคียงกับประเทศสิงคโปร์ เพื่อว่าคณะผู้แทนสิงคโปร์อาจนำวิธี
การของพระองค์ไปใช้ปฏิบัติการในประเทศของเขาได้ ทรงมั่นพระราชหฤทัยว่าจะ
สามารถทำให้ฝนตกลงในบริเวณดังกล่าวได้ แม้จะเป็นบริเวณไม่ให้ใหญ่นักก็ตาม
ในการสาธิตการทำฝนหลวงครั้งนั้น ทรงอาศัยเครื่องบินของกองบินตำรวจร่วมกับ
เครื่องบินของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ทำหน้าที่โปรยสารเคมี โดยบินขึ้นจาก
ฐานปฏิบัติการที่ตั้งอยู่ที่สนามบินบ่อฝ้าย อำเภอหัวหิน พระองค์ทรงควบคุมบัญชา
การปฏิบัติการด้วยวิทยุส่วนพระองค์จากเขื่อนแก่งกระจาน ทรงจัดขบวนการบิน
คำนวณทิศทางลมอันเป็นพื้นฐานด้านอุตุนิยมวิทยา และทรงกำหนดสูตรให้ใช้ใน
การบินเข้าไปโปรยผงสารเคมีตามแนวทางที่ได้ทรงศึกษาค้นคว้ามาเป็นเวลานาน
ด้วยพระปรีชาสามารถยิ่งทรงเปลี่ยนท้องฟ้าซึ่งแจ่มใสไร้เมฆหมอกให้เกิดเมฆฝน
ก่อตัวขึ้นอย่างหนาแน่น และภายในเวลา ๕ ชั่วโมง ก็ทรงสามารถบังคับให้ฝนตก
ลงตรงเป้าหมายได้สำเร็จ บรรดาแขกเมืองและข้าราชบริพาร ณ ที่นั้นได้เห็นฝน
ตกลงมาอย่างหนักราวปาฏิหาริย์ดเป็นเวลานานกว่า ๓ ชั่วโมง ต่างตกตะลึงโจษ
ขานถึงความอัศจรรย์กันทั่วหน้า นับเป็นความสำเร็จอันยอดเยี่ยมของมนุษย์ใน
การใช้เทคโนโลยีบังคับธรรมชาติ

  เหตุการณ์สำคัญนี้ผ่านมาประมาณ ๒๗ ปีจนกระทั่งวันที่ ๒๑ สิงหาคม
พุทธศักราช ๒๔๔๒ เวลา ๗.๑๕ นาฬิกา ผู้เขียนได้มีโอกาสฟังบทความ
สั้น ๆ เทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเกี่ยวกับเหตุการณ์ครั้ง
นั้น ออกอากาศทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทยในรายการ 
“บรรณสารสดุดี”  เมื่อฟังจบก็เกิดระลึกถึงเหตุการณ์สำคัญทางประวัติ
ศาสตร์ทำนองเดียวกันที่เกิดขึ้นในสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้า
เจ้าอยู่หัว เมื่อวันที่ ๑๘ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๔๑๑ ซึ่งเป็นวันทีพระ
บาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จพร้อมด้วยข้าราชการบริพาร
คณะทูตานุทูต รวมทั้ง เซอร์ แฮรี เซนต์ จอร์จ ออร์ด (Sir Harry St.
 George Ord) ผู้สำเร็จราชการประจำสิงคโปร์ ประทับที่พลับพลา ณ
บ้านหว้ากอ จังหวัดประจวบรีรีขันธ์ ได้ทอดพระเนตรสุริยุปราคาเต็ม
ดวง เวลา ๑๑ นาฬิกา ๓๖ นาที ๒๐ วินาที ซึ่งตรงกับเวลาที่ได้ทรง
พยากรณ์ไว้ล่วงหน้าเป็นเวลาหลายปีอย่างแม่นยำน่าอัศจรรย์ และ
ต่อมารัฐบาลได้เทิดพระเกียรติให้ทรงเป็น  “พระบิดาแห่งวิทยา
ศาสตร์ไทย”  พร้อมทั้งประกาศให้วันที่ ๑๘ สิงหาคม ของทุกปี
เป็น  “วันวิทยาศาสตร์ไทย”